การฟื้นคืนพระชนม์ และการเสด็จขึ้นสู่สวรรค์

สามัคคีธรรม

ครั้งล่าสุดที่เราพบกัน เกิดอะไรขึ้นบ้าง มีอะไรบ้างที่คุณรู้สึกขอบคุณ
ในสัปดาห์นี้ มีอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกเครียด และคุณต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้เรื่องต่างๆ ดีขึ้น
อะไรคือความต้องการของผู้คนในชุมชนของคุณ และเราจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อตอบสนองความต้องการที่แสดงออกมาได้อย่างไร
ครั้งล่าสุดที่เราได้พบกัน เราได้เรียนเรื่องอะไร เราได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับพระเจ้าและผู้คน
ในการประชุมครั้งล่าสุด คุณตัดสินใจที่จะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปใช้จริง คุณได้ทำอะไรไปบ้าง และเป็นไปอย่างไรบ้าง
จากเรื่องที่แล้วที่ได้เรียนไป คุณได้แบ่งปันกับใครบ้าง พวกเขาตอบสนองอย่างไร
ครั้งที่แล้วที่เราพบกัน เราระบุความจำเป็นหลายประการ และวางแผนที่จะตอบสนองความจำเป็นนั้น ในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
เวลานี้ ให้เรามาฟังเรื่องใหม่จากพระเจ้ากัน...

ยอห์น 20: 11-31

¹¹ แต่มารีย์ยืนร้องไห้อยู่นอกอุโมงค์ ขณะร้องไห้อยู่นางก้มลงมองเข้าไปในอุโมงค์ ¹² เห็นทูตสวรรค์สององค์สวมชุดสีขาวนั่งอยู่ตรงที่ซึ่งพวกเขาเคยวางพระศพพระเยซู องค์หนึ่งอยู่เบื้องพระเศียร อีกองค์อยู่เบื้องพระบาท ¹³ ทูตทั้งสองถามมารีย์ว่า “หญิงเอ๋ย ร้องไห้ทำไม?” มารีย์ตอบว่า “พวกเขาเอาองค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าไปแล้วและข้าพเจ้าไม่รู้ว่าพวกเขาเอาพระองค์ไปไว้ที่ไหน” ¹⁴ แล้วมารีย์ก็หันกลับมาและเห็นพระเยซูทรงยืนอยู่ที่นั่นแต่นางไม่ทราบว่าเป็นพระเยซู ¹⁵ พระองค์ตรัสว่า “หญิงเอ๋ย ร้องไห้ทำไม? เจ้ากำลังตามหาใครหรือ?” มารีย์คิดว่าพระองค์เป็นคนสวนจึงตอบว่า “ท่านเจ้าข้า หากท่านเอาพระองค์ไปขอบอกข้าพเจ้าว่าท่านเอาพระองค์ไปไว้ที่ไหน ข้าพเจ้าจะได้รับพระองค์ไป” ¹⁶ พระเยซูตรัสกับนางว่า “มารีย์เอ๋ย” มารีย์หันกลับมาหาพระองค์และร้องออกมาเป็นภาษาอารเมคว่า “รับโบนี!” (ซึ่งแปลว่า พระอาจารย์) ¹⁷ พระเยซูตรัสว่า “อย่าหน่วงเหนี่ยวเราไว้เพราะเรายังไม่ได้กลับไปหาพระบิดา จงไปหาพวกพี่น้องของเราและบอกพวกเขาว่า ‘เรากำลังจะกลับไปหาพระบิดาของเราและพระบิดาของท่านทั้งหลาย ไปหาพระเจ้าของเราและพระเจ้าของท่านทั้งหลาย’ ” ¹⁸ มารีย์ชาวมักดาลาจึงไปแจ้งข่าวแก่เหล่าสาวกว่า “ข้าพเจ้าได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว!” และเล่าถึงสิ่งที่พระองค์ได้ตรัสกับนาง ¹⁹ ค่ำวันต้นสัปดาห์นั้นเมื่อพวกสาวกมาอยู่ด้วยกันพวกเขาปิดประตูลงกลอนเพราะกลัวพวกยิว พระเยซูก็เสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ท่ามกลางพวกเขาและตรัสว่า “สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด!” ²⁰ เมื่อตรัสแล้วพระองค์ทรงสำแดงพระหัตถ์และสีข้างของพระองค์ให้พวกเขาดู เมื่อเหล่าสาวกเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้วก็ชื่นชมยินดีเป็นล้นพ้น ²¹ พระเยซูตรัสอีกว่า “สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด! พระบิดาได้ทรงส่งเรามาฉันใดเราก็ส่งพวกท่านไปฉันนั้น” ²² เมื่อตรัสดังนั้นแล้วพระองค์ทรงระบายลมหายใจเหนือพวกเขาพร้อมทั้งตรัสว่า “จงรับพระวิญญาณบริสุทธิ์เถิด ²³ ถ้าท่านอภัยบาปของผู้ใดผู้นั้นก็ได้รับการอภัย ถ้าท่านไม่อภัยให้เขาก็ไม่ได้รับการอภัย” ²⁴ ฝ่ายโธมัส (ที่เรียกกันว่า ดิไดมัส) หนึ่งในสาวกสิบสองคนไม่ได้อยู่ด้วยในตอนที่พระเยซูเสด็จมา ²⁵ ดังนั้นสาวกคนอื่นๆ จึงบอกเขาว่า “เราได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว!” แต่โธมัสกล่าวกับพวกเขาว่า “ถ้าเราไม่ได้เห็นรอยตะปูที่พระหัตถ์ ไม่ได้เอานิ้วแยงที่รูตะปูนั้นและไม่ได้เอามือแยงที่สีข้างของพระองค์ เราก็จะไม่ยอมเชื่อ” ²⁶ สัปดาห์ต่อมาเหล่าสาวกของพระองค์อยู่ด้วยกันในบ้านหลังนั้นอีก โธมัสก็อยู่กับพวกเขา ทั้งๆ ที่ปิดประตูลงกลอนอยู่แต่พระเยซูก็เสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ท่ามกลางพวกเขาและตรัสว่า “สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด!” ²⁷ จากนั้นพระองค์ตรัสกับโธมัสว่า “ยื่นนิ้วมาที่นี่ ดูมือของเรา ยื่นมือมาแยงที่สีข้างของเรา จงเลิกสงสัยและจงเชื่อเถิด” ²⁸ โธมัสทูลว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์และพระเจ้าของข้าพระองค์!” ²⁹ แล้วพระเยซูตรัสบอกเขาว่า “เพราะท่านได้เห็นเราท่านจึงเชื่อ ความสุขมีแก่ผู้ที่ไม่ได้เห็นแต่ก็ยังเชื่อ” ³⁰ พระเยซูทรงกระทำหมายสำคัญอื่นๆ อีกมากมายต่อหน้าเหล่าสาวกของพระองค์ซึ่งไม่ได้บันทึกไว้ในหนังสือเล่มนี้ ³¹ แต่ที่บันทึกเรื่องเหล่านี้ไว้ก็เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นพระคริสต์ พระบุตรของพระเจ้า และโดยความเชื่อท่านจะได้มีชีวิตในพระนามของพระองค์

ลูกา 24: 50-52

⁵⁰ เมื่อพระองค์ทรงนำพวกเขาออกมาที่ละแวกเบธานีแล้ว ทรงยกพระหัตถ์ขึ้นอวยพรเขาทั้งหลาย ⁵¹ ขณะที่ทรงอวยพรอยู่ พระองค์ก็เสด็จจากพวกเขาไปและทรงถูกรับขึ้นสู่สวรรค์ ⁵² เขาทั้งหลายจึงนมัสการพระองค์และกลับมาที่กรุงเยรูซาเล็มด้วยความชื่นชมยินดีอย่างใหญ่หลวง

Used with permission.

การประยุกต์ใช้

คุณชอบอะไรในเรื่องนี้
คุณไม่ชอบ หรือไม่เข้าใจอะไรจากเรื่องนี้
เวลานี้ ขอให้ใครสักคนเล่าเรื่องตอนนี้อีกครั้งโดยใช้คำพูดของตนเอง เหมือนกับว่ากำลังเล่าให้เพื่อนที่ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนฟัง ให้เราช่วยหากเขาตกหล่นหรือเพิ่มเติมบางอย่างโดยไม่ได้ตั้งใจ หากเป็นอย่างนั้น เราอาจถามเขาว่า "คุณพบข้อความนั้นจากตรงไหนในเรื่องนี้"
เรื่องนี้สอนอะไรเราเกี่ยวกับพระเจ้า พระลักษณะของพระองค์ และสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำ
จากเรื่องนี้ เราได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับผู้คน ตลอดจนตัวเราเอง
คุณจะนำความจริงของพระเจ้าจากเรื่องนี้ไปปรับใช้ในชีวิตของคุณในสัปดาห์นี้อย่างไร อะไรคือสิ่งที่คุณจะทำอย่างเจาะจงหรือมีสิ่งใดที่คุณจะลงมือทำ
ก่อนที่เราจะพบกันอีกครั้ง คุณจะแบ่งปันความจริงจากเรื่องนี้กับใคร คุณรู้จักคนอื่นๆ ที่ต้องการค้นพบพระวจนะของพระเจ้าในแอปนี้เหมือนเราบ้างไหม
ก่อนที่เราจะจบการประชุมนี้ ให้เราตัดสินใจว่าเราจะพบกันอีกครั้งเมื่อไหร่ และใครจะเป็นผู้ดำเนินกลุ่มคราวหน้า
เราหนุนใจให้คุณจดบันทึกสิ่งที่คุณบอกว่าคุณจะทำ และอ่านเรื่องนี้ซ้ำอีกก่อนที่เราจะพบกันอีกครั้ง โดยผู้ดำเนินกลุ่มสามารถส่งข้อพระคัมภีร์นี้ ในรูปแบบข้อความหรือเสียงถ้าใครยังไม่มี ให้เราอธิษฐานขอพระเจ้าอวยพรก่อนที่เราจะแยกย้ายกัน

0:00

0:00