สาวกละทิ้งสิ่งเก่า รับเอาสิ่งใหม่

สามัคคีธรรม

ครั้งล่าสุดที่เราพบกัน เกิดอะไรขึ้นบ้าง มีอะไรบ้างที่คุณรู้สึกขอบคุณ
ในสัปดาห์นี้ มีอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกเครียด และคุณต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้เรื่องต่างๆ ดีขึ้น
อะไรคือความต้องการของผู้คนในชุมชนของคุณ และเราจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อตอบสนองความต้องการที่แสดงออกมาได้อย่างไร
ครั้งล่าสุดที่เราได้พบกัน เราได้เรียนเรื่องอะไร เราได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับพระเจ้าและผู้คน
ในการประชุมครั้งล่าสุด คุณตัดสินใจที่จะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปใช้จริง คุณได้ทำอะไรไปบ้าง และเป็นไปอย่างไรบ้าง
จากเรื่องที่แล้วที่ได้เรียนไป คุณได้แบ่งปันกับใครบ้าง พวกเขาตอบสนองอย่างไร
ครั้งที่แล้วที่เราพบกัน เราระบุความจำเป็นหลายประการ และวางแผนที่จะตอบสนองความจำเป็นนั้น ในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
เวลานี้ ให้เรามาฟังเรื่องใหม่จากพระเจ้ากัน...

โคโลสี 3: 1-17

¹ ในเมื่อทรงให้ท่านทั้งหลายเป็นขึ้นกับพระคริสต์แล้ว ก็จงให้ใจของท่านจดจ่อกับสิ่งที่อยู่เบื้องบนที่ซึ่งพระคริสต์ประทับอยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า ² จงให้ความคิดของท่านจดจ่ออยู่กับสิ่งเบื้องบน ไม่ใช่สิ่งฝ่ายโลก ³ เพราะท่านตายแล้ว และบัดนี้ชีวิตของท่านถูกซ่อนอยู่กับพระคริสต์ในพระเจ้า ⁴ เมื่อพระคริสต์ผู้ทรงเป็นชีวิตของท่านปรากฏ เมื่อนั้นท่านก็จะปรากฏพร้อมกับพระองค์ในพระเกียรติสิริด้วย ⁵ เหตุฉะนั้นจงประหารโลกียวิสัยของท่านคือ การผิดศีลธรรมทางเพศ ความโสมม ราคะตัณหา ความปรารถนาชั่วและความโลภ ซึ่งเป็นการบูชารูปเคารพ ⁶ เนื่องด้วยสิ่งเหล่านี้พระพิโรธของพระเจ้ากำลังจะมาถึง ⁷ ครั้งหนึ่งท่านเคยดำเนินชีวิตในทางเหล่านี้ ⁸ แต่บัดนี้ท่านจงกำจัดสิ่งทั้งปวงต่อไปนี้ให้หมดจากตัวท่านคือ ความโกรธ ความเกรี้ยวกราด การคิดปองร้าย การกล่าวร้าย และวาจาหยาบช้าจากปากของท่าน ⁹ อย่าโกหกกันในเมื่อท่านสลัดทิ้งตัวตนเก่าๆ พร้อมกับความประพฤติเดิมๆ แล้ว ¹⁰ และสวมตัวตนใหม่ซึ่งกำลังทรงสร้างขึ้นใหม่ตามพระฉายขององค์พระผู้สร้างขณะที่ท่านเรียนรู้จักพระองค์มากขึ้น ¹¹ จึงไม่มีกรีกหรือยิว เข้าสุหนัตหรือไม่เข้าสุหนัต คนชาติอื่นๆ คนป่า ทาสหรือไท แต่พระคริสต์ทรงเป็นทุกสิ่งและทรงอยู่ในทุกคน ¹² ฉะนั้นในฐานะประชากรที่พระเจ้าทรงเลือก ผู้บริสุทธิ์และเป็นที่รักยิ่งของพระองค์ จงสวมความสงสาร ความกรุณา ความอ่อนโยน ความถ่อมสุภาพ และความอดทน ¹³ จงอดทนอดกลั้นต่อกันและกัน และไม่ว่าท่านมีเรื่องขุ่นข้องหมองใจประการใดต่อกันก็จงยกโทษให้กัน ท่านจงยกโทษให้กันเหมือนที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงยกโทษให้ท่าน ¹⁴ และจงสวมความรักทับคุณความดีทั้งหมดนี้ ความรักผูกพันสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างสมบูรณ์ ¹⁵ จงให้สันติสุขของพระคริสต์ครองใจท่านเพราะพระเจ้าทรงเรียกท่านมาเป็นอวัยวะของกายเดียวกัน เพื่อท่านจะได้รับสันติสุขนี้ และจงมีใจขอบพระคุณ ¹⁶ จงให้พระวจนะของพระคริสต์เปี่ยมล้นอยู่ในท่านขณะที่ท่านสั่งสอนและเตือนสติกันด้วยปัญญาทั้งสิ้น และขณะที่ท่านร้องเพลงสดุดี เพลงนมัสการ และบทเพลงฝ่ายวิญญาณด้วยใจกตัญญูต่อพระเจ้า ¹⁷ และไม่ว่าท่านจะทำสิ่งใด จะเป็นวาจาหรือการกระทำก็ตาม จงทำทุกสิ่งในพระนามขององค์พระเยซูเจ้า ขอบพระคุณพระเจ้าพระบิดาโดยทางพระเยซู

Used with permission.

การประยุกต์ใช้

คุณชอบอะไรในเรื่องนี้
คุณไม่ชอบ หรือไม่เข้าใจอะไรจากเรื่องนี้
เวลานี้ ขอให้ใครสักคนเล่าเรื่องตอนนี้อีกครั้งโดยใช้คำพูดของตนเอง เหมือนกับว่ากำลังเล่าให้เพื่อนที่ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนฟัง ให้เราช่วยหากเขาตกหล่นหรือเพิ่มเติมบางอย่างโดยไม่ได้ตั้งใจ หากเป็นอย่างนั้น เราอาจถามเขาว่า "คุณพบข้อความนั้นจากตรงไหนในเรื่องนี้"
เรื่องนี้สอนอะไรเราเกี่ยวกับพระเจ้า พระลักษณะของพระองค์ และสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำ
จากเรื่องนี้ เราได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับผู้คน ตลอดจนตัวเราเอง
จากเรื่องนี้ เราได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับการเป็นสาวก?
คุณจะนำความจริงของพระเจ้าจากเรื่องนี้ไปปรับใช้ในชีวิตของคุณในสัปดาห์นี้อย่างไร อะไรคือสิ่งที่คุณจะทำอย่างเจาะจงหรือมีสิ่งใดที่คุณจะลงมือทำ
ก่อนที่เราจะพบกันอีกครั้ง คุณจะแบ่งปันความจริงจากเรื่องนี้กับใคร คุณรู้จักคนอื่นๆ ที่ต้องการค้นพบพระวจนะของพระเจ้าในแอปนี้เหมือนเราบ้างไหม
ก่อนที่เราจะจบการประชุมนี้ ให้เราตัดสินใจว่าเราจะพบกันอีกครั้งเมื่อไหร่ และใครจะเป็นผู้ดำเนินกลุ่มคราวหน้า
เราหนุนใจให้คุณจดบันทึกสิ่งที่คุณบอกว่าคุณจะทำ และอ่านเรื่องนี้ซ้ำอีกก่อนที่เราจะพบกันอีกครั้ง โดยผู้ดำเนินกลุ่มสามารถส่งข้อพระคัมภีร์นี้ ในรูปแบบข้อความหรือเสียงถ้าใครยังไม่มี ให้เราอธิษฐานขอพระเจ้าอวยพรก่อนที่เราจะแยกย้ายกัน

0:00

0:00